การสกัดหรือการคั้นน้ำผลไม้

• ใช้มือหรือใส่เครื่องปั่น ระวังอย่าให้เมล็ดแตก เพราะจะมีรสขมหรือฝาด
• ผลไม้ที่ใช้มีน้ำน้อยหรือไม่มีน้ำจำเป็นต้องเติมน้ำสะอาดลงไปเพื่อสกัดรสชาติออกจากผลไม้นั้น ๆ ซึ่งน้ำที่เติมลงไปนั้นแตกต่างกัน แล้วแต่ชนิดของผลไม้ ตัวอย่างการเตรียมน้ำผลไม้บางชนิด เช่น

องุ่น

การบีบคั้นน้ำจากองุ่นอาจต้องใช้มือหรือเครื่องคั้น แต่ต้องระวังอย่าให้เมล็ดแตก เพราะจะทำให้มีรสขมหรือฝาดได้ สำหรับน้ำองุ่นที่ได้อาจไม่ต้องเติมน้ำเลย หรือเติมลงไป 1 เท่า

สับปะรด

เลือกชนิดที่สุกจัด ปอกเปลือกเอาตาออก สับเป็นชิ้นเล็ก ๆ คั้นด้วยมือ หรือใช้เครื่องคั้น กรองด้วยผ้าขาวบาง เติมน้ำสะอาด 2 - 3 เท่า (ควรเติมน้ำในกากที่ผ่านการคั้นตอนแรกแล้วนำส่วนนี้มาผสมกับส่วนที่คั้นได้ตอนแรก)

กระเจี๊ยบสด

นำกระเจี๊ยบสดล้างน้ำให้สะอาด แกะเมล็ดทิ้ง นำกลีบดอกกระเจี๊ยบที่ได้เติมน้ำสะอาด 4 เท่า (กระเจี๊ยบ 1 กิโลกรัม เติมน้ำ 4 ลิตร) ต้มจนกลีบดอกซีดขาว น้ำที่ได้มีสีแดงตามต้องการ ช้อนเอากากหรือกรองด้วยผ้าขาวบาง

กระเจี๊ยบแห้ง

ใช้กระเจี๊ยบแห้ง 100 กรัม (1 ขีด) ล้างให้สะอาด เติมน้ำสะอาด 5 ลิตร ต้มให้เดือด ช้อนเอากากออกหรือกรองด้วยผ้าขาวบาง

มะยม

ใช้มะยมสดแก่จัด ทุบให้ผลแหลกแต่อย่าให้เมล็ดแตก เติมน้ำ 6 - 7 เท่า (มะยม 1 กิโลกรัม เติมน้ำ 6 - 7 ลิตร) คนให้เข้ากัน กรองเอาแต่น้ำ

มะขามเปียก

ใช้มะขามเปียก 1 กิโลกรัม เติมน้ำ 15 ลิตร ขยำให้เข้ากันกรองเอาแต่น้ำ

มะดัน

ใช้มะดันแก่จัด 1 กิโลกรัม ปอกเปลือกและแกะเมล็ดทิ้ง เอาเฉพาะเนื้อ ทุบให้แหลก เติมน้ำ 8 ลิตร ผสมให้เข้ากันดี กรองเอาแต่น้ำ

ส้มเขียวหวาน

ใช้ส้มเขียวหวาน 1 กิโลกรัม ล้างผิวนอกให้สะอาด ผ่าเป็น 2 ซีก คั้นน้ำ ช้อนเอาเมล็ดทิ้ง เติมน้ำ 1 - 2 ลิตร